ว่านสากเหล็ก
ชื่ออื่นๆ : ว่านสากเหล็ก, จ๊าลาน, มะพร้าวนกคุ่ม (เชียงใหม่) พร้าวนก, พร้าวนกคุ่ม (นครศรีธรรมราช) ละโมยอ (มาลายู-นราธิวาส)
ต้นกำเนิด :
ชื่อสามัญ : ว่านสากเหล็ก
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Curculigo megacarpa Ridl.
ชื่อวงศ์ : HYPOXIDACEAE
ลักษณะของว่านสากเหล็ก
ต้น ไม้ล้มลุก ลักษณะคล้ายพืชพวกปาล์ม
ใบ เรียงสลับติดกันที่โคนต้น แผ่นใบรูปขอบขนานแกมรูปหอก พับเป็นร่อง ๆ ตามยาว คล้ายใบปาล์ม กว้างประมาณ 4 – 6 เซนติเมตร ยาวประมาณ 30 – 40 เซนติเมตร ปลายใบเรียวแหลมโคนใบสอบแคบ ก้านใบยาว 25 – 30 เซนติเมตร โคนแผ่กว้างหุ้มลำต้น
ดอก ดอก มี 6 กลีบ สีเหลือง โคนเชื่อมติดกัน เส้นผ่าศูนย์กลาง 2 – 2.5 เซนติเมตร ดอกออกรวมกันแน่น เป็นช่อรูปทรงกระบอกปลายแหลม ยาว 5 – 7 เซนติเมตร กว้าง ประมาณ 4 – 5 เซนติเมตร
ผล ผลแก่สีขาวถึงแดง ขนาดยาวประมาณ 4 – 5 เซนติเมตร ส่วนที่ด้านขั้วป่อง ออกเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 1 เซนติเมตร และค่อย ๆ เรียวไปทางปลายผล

การขยายพันธุ์ของว่านสากเหล็ก
การใช้เมล็ดและแยกต้น (หน่อ)
ธาตุอาหารหลักที่ว่านสากเหล็กต้องการ
ประโยชน์ของว่านสากเหล็ก
ผลรับประทานได้เมื่อสุกมีรสหวานมาก
สรรพคุณทางยาของว่านสากเหล็ก
ยาพื้นบ้านอีสานใช้
- ราก ฝนทา แก้สิวฝ้า ยาพื้นบ้านภาคใต้ใช้ เหง้า 30-60 กรัม ต้มน้ำดื่ม วันละสามครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น ลดอาการปวดประจำเดือน
- ราก 10-15 กรัม ต้มน้ำดื่ม วันละสามครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น รับประทานเป็นยาชักมดลูก เช่น คลอดบุตรใหม่ๆ มดลูกลอย เพราะความอักเสบ เนื่องจากความเคลื่อนไหวของมดลูกจากที่เดิมให้เป็นปกติ วิธีใช้คือนำรากมาหั่นบางๆ ตากแห้ง ดองสุราหรือบดรับประทาน ชักมดลูกให้เข้าอู่ แก้มดลูกอักเสบ บำรุงกำลัง ปรุงยาขัดผิว แก้สิวฝ้า จุดด่างดำบนใบหน้า ทำให้หน้าขาว แต่เมื่อถูกแดดจะทำให้หน้าดำ
- ดอก 100-150 กรัม ราก 10-15 กรัม ต้มน้ำดื่ม วันละสามครั้ง หลังอาหาร เช้า กลางวัน เย็น แก้ปวดท้อง ขับปัสสาวะ
คุณค่าทางโภชนาการของว่านสากเหล็ก
การแปรรูปของว่านสากเหล็ก
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11667&SystemType=BEDO
www.flickr.com