สวิสชาร์ด
ชื่ออื่นๆ : ชาร์ด(Chard) , บีตรูต/บีทรูท (Beetroot), ผักกาดแดง, ผักกาดฝรั่ง
ต้นกำเนิด : แถบเมดิเตอร์เรเนียน และยุโรป ในประเทศไทยปลูกได้ทางภาคเหนือ
ชื่อสามัญ : สวิสชาร์ด (Swiss Chard)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Beta vulgaris
ชื่อวงศ์ : Amaranthaceae
ลักษณะของสวิสชาร์ด
ใบหยิกเป็นคลื่นสีเขียวเข้ม ก้านใบมีขนาดใหญ่แบนมีหลายสี เช่น สีแดง สีขาว สีเหลือง เป็นผักที่มีสีสันสวยงามอยู่ในตระกูลเดียวกับบีทรูทแต่ไม่มีหัว ใช้ทานใบและก้าน ไม่ขม รสชาติจืดๆ

การขยายพันธุ์ของสวิสชาร์ด
ใช้เมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่สวิสชาร์ดต้องการ
การเพาะปลูก
– ปลูกได้ตลอดปี ในพื้นที่สูงกว่า 1,000 เมตร
– ดินปลูก ควรเป็นดินร่วนปนทราย มีความเป็นกรด-ด่าง ประมาณ 5.5-7.0 มีการระบายน้ำที่ดี
– อุณหภูมิของดินต่อการงอกเมล็ด ประมาณ 20 องศาเซลเซียส และอุณหภูมิต่อการเจริญเติบโตประมาณ 15-22 องศาเซลเซียส
– สามารถเก็บผลผลิตทั้งปี และมีมากในช่วงเดือนธันวาคมถึงมีนาคม
ประโยชน์ของสวิสชาร์ด
นิยมบริโภคส่วนของใบและก้านใบ ต้นอ่อนนิยมรับประทานสด ช่วยเพิ่มสีสันของจานสลัด ส่วนต้นที่มีขนาดใหญ่ นิยมนำมาลอกเยื่อก้านใบออก หั่นเป็นชิ้นๆ แล้วนำมาต้ม หรือตุ๋น
สวิสชาร์ดมีปริมาณวิตามินเคสูงมาก หากรับประทานสวิสชาร์ด 35 แคลอรี่ ร่างกายจะได้รับวิตามันเคมากกว่าปริมาณขั้นต่ำที่ควรได้รับต่อวันถึง 300% และมีวิตามินเอมากกว่า 100% นอกจากนี้ยังช่วยป้องกันมะเร็ง ทำให้สายตาดีขึ้น และยังได้รับวิจามินอี ที่หาได้ยากจากพืชชนิดอื่นจำนวนมาก

สรรพคุณทางยาของสวิสชาร์ด
–
คุณค่าทางโภชนาการของสวิสชาร์ด
สวิสชาร์ดเป็นพืชผักเมืองหนาวและเป็นผักเพื่อสุขภาพ มีประโยชน์และสรรพคุณมากมาย ประกอบด้วย polyphenol antioxidants มากถึง 13 ชนิด โปรตีนและใยอาหารสูง วิตามิน A, E และ K แม็กนีเซียม แมงกานีส และโปแตสเซียม
การแปรรูปของสวิสชาร์ด
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=9963&SystemType=BEDO
http://www.royalprojectmarket.com
https://www.flickr.com
2 Comments