เถาวัลย์ปูน
ชื่ออื่นๆ : น้ำเครือเขา, ส้มเฮียก (เหนือ) เครื่อจุ้มจ้า (เชียงราย) เถาพันซ้าย (อุตรดิตถ์) เครือเขาน้ำ, เคือคันเขาขันขา, ส้มละออม (พายัพ)
ต้นกำเนิด : อนุทวีปอินเดียไปจนถึงจีนกลางตอนใต้และอินโดจีน
ชื่อสามัญ : –
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Cissus repanda Vahl.
ชื่อวงศ์ : VITACEAE
ลักษณะของเถาวัลย์ปูน
ต้น เป็นพรรณไม้เถา มีขนาดเล็ก ชอบเลื้อยพาดพันต้นไม้อื่น ๆ และมีมือเกาะคล้ายกับเถา ตำลึง เถานั้นจะมีละอองเป็นสีขาว เกาะจับกันอย่างหนาแน่น จนมองดูเป็นสีนวล

ใบ จะมีขนาดโตเท่าฝ่ามือ ส่วนตรงกลางใบและริมทั้งสองข้างจะแหลมเป็นสามยอด ตรงกลางจะสูงและมีเว้าตรงข้าง

ดอก จะมีลักษณะคล้ายกับดอกเถาคัน ออกดอกเป็นช่อแบบซี่ร่ม ออกเป็นช่อใหญ่สีแดง และดอกนั้นจะออกเป็นช่อใหญ่แบนและแน่น ดอกย่อยมีขนาดเล็กและมีจำนวนมาก ตั้งอยู่บนก้านดอกย่อย แต่ละช่อจะมีประมาณ 10-40 ดอก ลักษณะของดอกคล้ายดอกกะตังบาย หรือฝิ่นต้น

ผล ลักษณะกลม ผิวเรียบเป็นมัน ผลมีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 1.5-2 เซนติเมตร หรือมีขนาดเท่าผลมะแว้งหรือขนาดเท่าปลายนิ้วก้อย ผลดิบนั้นเป็นสีเขียว เมื่อสุกจะเปลี่ยนเป็นสีดำ

การขยายพันธุ์ของเถาวัลย์ปูน
เพาะเมล็ด
ธาตุอาหารหลักที่เถาวัลย์ปูนต้องการ
ประโยชน์ของเถาวัลย์ปูน
นำมาเลี้ยงเป็นไม้โขด
สรรพคุณทางยาของเถาวัลย์ปูน
- เถา ขับปัสสาวะ ขับเสมหะ แก้เส้นตึง แก้กระษัย รักษาแผลสด
- ใบ ตำเอาน้ำทาแผลห้ามเลือด รักษาแผลสด
คุณค่าทางโภชนาการของเถาวัลย์ปูน
การแปรรูปของเถาวัลย์ปูน
แหล่งข้อมูลที่น่าเชื่อถือ : http://www.bedo.or.th/lcdb/biodiversity/view.aspx?id=11572&SystemType=BEDO
www.flickr.com